คอลลาเจนไทพ์ทูบำรุงข้อเข่าและกระดูก จริงหรือไม่
คอลลาเจน type II คืออะไร
คอลลาเจนประเภทที่ 2 (type II) พบมากในกระดูกอ่อน เช่น ส่วนประกอบของหู จมูก หลอดลม และกระดูกซี่โครง ทำหน้าที่แตกต่างจากคอลลาเจนประเภทที่ 1 อย่างสิ้นเชิง โดยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์ของเซลล์ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อการลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ ซึ่ง คอลลาเจนชนิดที่ 2 เป็นคอลลาเจน ที่พบได้ในกระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและให้ความแข็งแรงแก่ข้อต่อในขณะที่มีการเคลื่อนไหว
คอลลาเจน มีกี่ชนิด
- คอลลาเจนชนิดที่ 1 หรือ Collagen Type I คือ คอลลาเจนที่มีปริมาณทั้งหมด 90% ของร่างกาย โดยมักพบในบริเวณหนังแท้, เส้นเอ็น, พังผืด และเนื้อกระดูกแข็ง เป็นต้น ความเหนียวและแข็งแรงมากที่สุด ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อและข้อต่อ รวมถึงป้องกันการฉีกขาดของเนื้อเยื่ออีกด้วย
- คอลลาเจนชนิดที่ 2 หรือ Collagen Type II คือ คอลลาเจนพบมากในบริเวณกระดูกอ่อน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของกระดูกหู, จมูก, หลอดลม และซี่โครง เป็นต้น คอลลาเจนไทพ์ทูช่วยลดอาการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักและเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นปกติ
- คอลลาเจนชนิดที่ 3 หรือ Collagen Type III คือ คอลลาเจนที่มักพบร่วมกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 ในบริเวณผิวหนัง, เส้นเอ็น, พังผืด หรือหลอดเลือด แต่มักพบน้อยกว่าในปริมาณเพียง 10% โดยบริเวณหลัก ๆ ที่พบคอลลาเจนชนิดที่ 3 นั่นก็คือบริเวณผนังหลอดเลือด
- คอลลาเจนชนิดที่ 4 หรือ Collagen Type IV คือ คอลลาเจนที่สามารถพบได้เฉพาะบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อและไขมันเป็นเส้นใยฝอยของเยื่อบุผิวบริเวณนอกเซลล์ โดยคอลลาเจนชนิดนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือด
- คอลลาเจนชนิดที่ 5 หรือ Collagen Type V คือ คอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งสามารถพบได้ในบริเวณเดียวกับที่พบคอลลาเจนชนิดที่ 1 เช่นกัน มีส่วนช่วยในการควบคุมการเจริญเติบโตของเส้นใยภายในชั้นผิว
จุดเด่นของคอลลาเจนไทพ์ทู คือจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่บริเวณข้อต่อ ทำให้ส่วนที่สึกหรอได้รับการซ่อมแซมรวมถึงช่วยดูดซับและเพิ่มระดับของกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงข้อต่อ คอลลาเจนไทพ์ทูจึงช่วยลดอาการปวดข้อและข้อยึดได้
- สามารถช่วยบรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อม, ปวดข้อ และปวดหลัง เป็นต้น
- ช่วยซ่อมแซมกระดูกอ่อนที่สึกหรอ
- ลดอาการอักเสบของผู้ที่ป่วยเป็นโรคไขข้อรูมาตอยด์ หรือข้อเข่าเสื่อม เป็นต้น
- ช่วยลดเลือนริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ
ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย
หากขาดคอลลาเจนไทพ์ทูจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย
แม้ว่าร่างกายจะสามารถสังเคราะห์คอลลาเจนได้ด้วยตนเอง แต่เราควรรับประทานคอลลาเจนเสริมเข้าไปด้วย เนื่องจากหากร่างกายขาดคอลลาเจนไทพ์ทู อาจมีอาการดังต่อไปนี้
- กระดูกและข้อต่อบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายเสื่อมสภาพ
- มีอาการปวดบริเวณหมอนรองกระดูกสันหลัง, ข้อเข่า และเอว เป็นต้น
- ระบบไหลเวียนโลหิตเกิดความผิดปกติ
- ระบบการเผาผลาญไขมันทำงานได้น้อยลง
- ทำให้สมานของแผลที่ต้องใช้คอลลาเจนเกิดขึ้นช้าลง
- เส้นเอ็นยืดหยุดน้อยลง
- เส้นผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย